ตัวแทนจังหวัดตาก นำเสนอศิลปการแสดงพื้นบ้าน ในงาน “เหนือตอนล่าง เล่าผ่านสินค้าชุมชน” ตลาดวัฒนธรรมกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง

ฟ้อนสักการะขึ้นธาตุ เดือนเก้า (เหนือ): ประเพณีศรัทธาแห่งล้านนาที่บ้านตาก
สัมผัสความงดงามของ "ฟ้อนสักการะขึ้นธาตุ เดือนเก้า (เหนือ)" การแสดงอันศักดิ์สิทธิ์ที่ถือกำเนิดจากศรัทธาอันแรงกล้าของชาวล้านนา ณ พระบรมธาตุบ้านตาก อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก
ประเพณีขึ้นธาตุเดือนเก้า (เหนือ) ของอำเภอบ้านตาก เป็นประเพณีที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ เพื่อเป็นการสักการะองค์พระบรมธาตุบ้านตาก ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และเป็นการบวงสรวงขอพรจากเทวดาในการเริ่มฤดูทำนา ประเพณีดังกล่าวจะกระทำในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนเก้าของชาวเหนือ ตามปฏิทินล้านนา จะอยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายนของทุกปี ซึ่งจะผู้คนที่ศรัทธาในองค์พระบรมธาตุ จะจัดเตรียมเครื่องคาว หวาน ธูป เทียน ดอกไม้ ตุงชัย และผ้าห่มองค์พระบรมธาตุ จัดเป็นขบวนแห่สวยงาม แห่ไปตามสะพานบุณขึ้นสู่องค์พระบรมธาตุ เพื่อประกอบพิธีห่มผ้าองค์พระบรมธาตุ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชาวบ้านตากและประชาชนทั่วไปที่มาร่วมงานประเพณี
การแสดงชุดนี้ เป็นการจำลองขบวนแห่ผ้าห่มองค์พระบรมธาตุ ประกอบการฟ้อนรำอย่างอ่อนช้อยตามนาฏศิลป์ของชาวล้านนา เพื่อเป็นการสักการะและสืบสานประเพณีอันทรงคุณค่าที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ให้คงอยู่กับลูกหลานชาวบ้านตากตลอดไป

ระบำทอผ้าใยกัญชงสายใยวัฒนธรรมชนเผ่าม้ง: มรดกแห่งภูมิปัญญาที่พลิ้วไหว
ระบำทอผ้าใยกัญชงสายใยวัฒนธรรมชนเผ่าม้ง ไม่ใช่แค่การแสดง แต่คือการเดินทางอันงดงามสู่โลกแห่งวิถีชีวิตและภูมิปัญญาของชาวม้ง
ในคติความเชื่อชาวม้ง "กัญชง” เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์ โลกของเทพเจ้า และโลกของบรรพบุรุษ ซึ่งถือเป็นของมงคล ชาวม้งจึงลอกเส้นใยจากเปลือกกัญชง นำมาทำเป็นสายสิญจน์ใช้ในพิธีกรรมต่างๆ เช่น ผูกมือรับขวัญให้กับเด็กที่เกิดใหม่ ใช้ในพิธีเข้าทรง และนำมาทอเป็นเสื้อผ้าใส่ในงานมงคลและวันปีใหม่ แม้แต่ในช่วงสุดท้ายของชีวิต เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของชาวม้งที่เสียชีวิต ล้วนแต่ทําขึ้นจากเส้นใยกัญชงทั้งสิ้น ด้วยความเชื่อว่า จะสามารถเดินทางไปสู่สวรรค์และสื่อสารกับวิญญาณบรรพชนได้ ดังนั้น กัญชงจึงเป็นพืชดั้งเดิมที่ใช้ประโยชน์ตามประเพณีและวัฒนธรรมของชนเผ่าม้งมาอย่างยาวนานจวบจนปัจจุบัน
การแสดงชุดนี้เป็นการนำขั้นตอนในการทำผ้าใยกัญชง มาประดิษฐ์เป็นท่าร่ายรำที่ใช้ในการแสดง เช่น ท่าลอกเปลือกใยกัญชง ท่าปั่นเส้นใยกัญชง และท่าทอผ้าใยกัญชง เล่าเรื่องราวผ่านการแสดง ประกอบกับบทเพลงม้งโบราณ และดนตรีม้งโดยการเป่าใบไม้ และเป่าขลุ่ยม้ง ผสมผสานกัน ออกมาเป็นดนตรีที่ใช้ประกอบในการแสดง

รำวงพื้นบ้านอำเภอบ้านตาก: ร่วมสนุกกับจังหวะรำวงพื้นบ้านที่สร้างสีสันและความบันเทิง ที่ถ่ายทอดมาจากศิลปินพื้นบ้าน สู่กลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่ ในการสืบสานเพลงพื้นบ้าน ของอำเภอบ้านตาก
ในอดีตชาวอำเภอบ้านตาก เมื่อหมดจากฤดูการจากการทำนาทำไร หนุ่มสาวก็จะนัดหมายกันจัดให้มีรำวงพื้นบ้านขึ้น เพื่อเป็นการพบปะสังสรรค์พูดคุยและสร้างความสนุกสนานกัน โดยใช้พื้นที่บริเวณลานบ้านกว้าง ๆ ทำกิจกรรมรำวงกัน ซึ่งผู้คนที่ทราบว่าจะมีรำวงพื้นบ้านต่างก็พามาชมกัน คืนไหนเดือนหงายก็จะใช้แสงจันทร์ส่องสว่าง แต่ถ้าคืนไหนเดือนมืดก็จะก่อไฟไว้กลางลานเพื่อความสว่างไสว ผู้คนที่มาร่วมชมต่างก็จะหาที่นั่งหรือยืนชมกันเป็นวงกว้าง ส่วนหนุ่มสาวก็จะร่ายรำเป็นคู่ไปโดยรอบกองไฟ หนุ่มๆก็จะแต่งกายใส่เสื้อเข้าในกางเกง ผูกผ้าเช็ดหน้าไว้ที่ข้อมือ เมือจบการรำวงถ้าถูกใจสาวคนไหน ก็จะนำผ้าเช็ดหน้าไปมอบให้สาวผู้นั้น ซึ่งเป็นการสื่อถึงความสนใจในตัวหญิงสาวผู้นั้น ส่วนสาวๆ จะก็นุ่งซิ้นหรือกระโปร่งและเสื้อผ้าสีสันสดใสในการร่ายรำ
เครื่องดนตรีที่ใช้ในสมัยนั้นจะใช้กลองสองหน้ากับลูกซัด ต่อมามีการเพิ่มเติมเครื่องดนตรีตามแต่จะหาได้ ส่วนเนื้อเพลงที่ใช้ขับร้องกันจะมีเนื้อหาในการชมธรรมชาติ การเปรียบเทียบ การหยอกเย้า การเกรี้ยวพาราสีกันเพื่อบ่งบอกความในใจได้อย่างมีความหมาย ซึ่งท่วงทำนองก็มีความไพเราะไปตามสมัยนิยม นิยมร้องรำกันตามเทศกาลและงานประเพณีต่าง ๆ เช่น ลอยกระทง ปีใหม่ งานบวช เป็นต้น